ขายดีแต่เจ๊ง! แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้ 4 ข้อผิดพลาดที่ทำให้เงินหายเกลี้ยง
แม่ค้าออนไลน์หลายคนคงเคยฝันอยากให้ร้านขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่รู้ไหมว่า ยอดขายปังๆ ไม่ได้การันตีว่าธุรกิจจะรอดเสมอไป
ขายดีแต่เจ๊ง! แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้ 4 ข้อผิดพลาดที่ทำให้เงินหายเกลี้ยง
แม่ค้าออนไลน์หลายคนคงเคยฝันอยากให้ร้านขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่รู้ไหมว่า ยอดขายปังๆ ไม่ได้การันตีว่าธุรกิจจะรอดเสมอไป บางที "ขายดีจนเจ๊ง" ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้ เพราะขาดการบริหารจัดการร้านค้าที่เป็นระบบ ทำให้เงินที่เข้ามาไม่เหลือ สุดท้ายก็เหนื่อยฟรี แถมเสียเงินอีก วันนี้มาดูกันว่า “สาเหตุของการขายดีจนเจ๊ง” เกิดจากอะไรได้บ้าง และแม่ค้าออนไลน์อย่างเราจะป้องกันปัญหานี้ได้อย่างไร
1. ไม่รู้ต้นทุนสินค้าที่แท้จริง
นี่คือสาเหตุสำคัญอันดับแรก ถ้าไม่รู้ว่า ต้นทุนสินค้า ที่แท้จริงของเราคือเท่าไหร่ เราจะตั้งราคาขายที่เหมาะสมได้อย่างไร? การไม่รู้ต้นทุนทำให้ไม่สามารถคำนวณกำไรต่อหน่วยได้ และอาจทำให้ขายสินค้าในราคาที่ต่ำเกินไปจนไม่คุ้มค่าใช้จ่ายทั้งหมดในร้าน แม้จะขายได้เยอะแค่ไหน ถ้ากำไรน้อยนิดหรือติดลบ สุดท้ายก็เจ๊งอยู่ดี แม่ค้าออนไลน์ควรใช้ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ ที่บันทึกข้อมูลการซื้อ-ขายสินค้าได้ละเอียด เพื่อให้เห็นกำไรต่อชิ้นชัดเจน เมื่อรู้ต้นทุนที่แท้จริง ก็จะตั้งราคาขายที่เหมาะสมและสร้างกำไรได้ตามเป้าหมาย ไม่ต้องกลัวขายขาดทุนอีกแล้ว
2. ขายดีแต่ไม่มีบัญชีรายรับรายจ่าย
แม่ค้าออนไลน์มือใหม่มักมองข้ามเรื่องนี้ คิดว่างานยุ่ง ไม่มีเวลาทำบัญชี หรือไม่มีความรู้ด้านนี้ ไว้ทำทีหลังก็ได้ แต่บอกเลยว่าคิดผิดมาก เพราะการไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ทำให้เราไม่รู้เลยว่ากระแสเงินสดของร้านเป็นอย่างไร เงินเข้าเท่าไหร่ เงินออกไปกับอะไรบ้าง สุดท้ายอาจจะใช้เงินเกินตัว จ่ายมากกว่าที่ได้มาโดยไม่รู้ตัว จนร้านขาดสภาพคล่องและต้องปิดตัวลง เพื่อให้เห็นภาพรวมการเงินของร้านได้อย่างชัดเจน และป้องกันเงินขาดมือ แม่ค้าออนไลน์ควรใช้ระบบที่มีรายงานยอดขาย ซึ่งมันจะสามารถช่วยบันทึกทุกคำสั่งซื้อ การรับชำระเงิน และค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ ทำให้เราสามารถดูรายงานสรุปยอดขาย และคำสั่งซื้อได้แบบเรียลไทม์ รู้สถานะการเงินของร้านอยู่เสมอ
3. ไม่มีระบบจัดสรรเงิน
นี่คือสัญญาณของการทำธุรกิจแบบไม่เป็นระบบ การไม่มีการวางแผนและการจัดสรรเงินที่ได้มาอย่างชัดเจน ทำให้เราใช้เงินตามใจ ไม่มีแบ่งสัดส่วนสำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าการตลาด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ หรือแม้แต่เงินสำรองฉุกเฉิน ถ้าไม่มีการจัดการเงินที่ดี เงินก็รั่วไหลไปเรื่อย ๆ จนไม่เหลือเก็บ ควรนำข้อมูลการขายและรายรับที่บันทึกผ่านระบบจัดการร้านค้า มาใช้เป็นพื้นฐานในการวางแผนจัดสรรเงิน เพราะเมื่อเราเห็นยอดรายได้ทั้งหมด ก็จะสามารถแบ่งเงินได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น
4. สต็อกสินค้าจม แม่ค้าออนไลน์ขาดการดูแลจริงจัง
ขายดีก็จริงแต่สั่งของมาตุนเยอะเกินไปหรือเปล่า? ปัญหานี้พบบ่อยในแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ได้เก็บข้อมูลสถิติยอดขายที่ผ่านมา ทำให้ประเมินปริมาณสินค้าที่จะสั่งหรือผลิตไม่ถูก เมื่อมีสต็อกสินค้ามากเกินความจำเป็น เงินทุนของเราก็จะจมไปกับสินค้าที่กองอยู่ในคลัง แถมถ้าสินค้าเสียหาย หมดอายุ หรือล้าสมัยไปแล้ว ก็กลายเป็นต้นทุนสินค้าจมที่สูญเปล่าไปโดยปริยาย
หลายคนอาจจะคิดว่า ขอให้ขายดีก่อน เดี๋ยวค่อยมาจัดการระบบต่างๆ ทีหลัง แต่บอกเลยว่าอาจจะไม่ทันการ เพราะนอกจากจะเสียแรงที่ลงไปฟรี ๆ แล้ว ยังต้องเสียเงินที่เป็นรายได้ไปอีกด้วย
แต่ไม่ต้องกังวล ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าแบบนี้ เรามีตัวช่วยดี ๆ มาแนะนำ ที่จะทำให้แม่ค้าออนไลน์บริหารจัดการร้านค้าได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงในการขายดีจนเจ๊ง
ลองให้ EZ Live Pro ที่เป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยสำคัญสำหรับร้านค้าออนไลน์ ด้วยฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อแม่ค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ทำให้การจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย สะดวก และเป็นระบบมากขึ้น
- จัดการสต็อกสินค้า รับมือกับปัญหาสินค้าค้างสต็อกได้ง่ายขึ้น เพราะ EZ Live Pro ช่วยให้ตรวจสอบจำนวนสินค้าคงเหลือได้อย่างแม่นยำ วางแผนการสั่งซื้อได้ตรงกับความต้องการ
- สรุปคำสั่งซื้อ ไม่พลาดทุกออเดอร์ จัดการคำสั่งซื้อได้อย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ
- รับชำระเงิน รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทาง สะดวกทั้งแม่ค้าและลูกค้า
- รายงานสรุปยอดขาย สามารถดูจำนวนยอดขายทั้งหมด ทำให้เห็นภาพรวมการเงินของร้านค้าได้อย่างชัดเจน
- จัดการออเดอร์และจัดส่งสินค้า ทำให้กระบวนการแพ็คของและจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความผิดพลาดได้
EZ Live Pro จะช่วยให้แม่ค้าออนไลน์มีเวลาไปโฟกัสกับการขายและการตลาดได้เต็มที่ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับการจัดการหลังบ้านอีกต่อไป ทำให้ร้านค้าเติบโตอย่างยั่งยืน มีกำไรจริง ไม่ใช่แค่ขายดีแต่เงินหาย!
สมัครเลย ทองลองใช้ฟรี!

